วันเสาร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558

On 06:58 by Unknown     No comments











1 ไอทีสวมใส่ได้ (Wearable Devices) เนื่องจากแทรนการใช่อุปกรณ์พกพาได้เป็นที่นิยมในขณะนี้จึงไม่แปลกหากในปี 2015 จะได้เห็นอุปกรณ์อีกหลายอย่างที่จะมีขนาดเล็กลงจนทำให้สามารถพกพาได้สะดวก โดยเฉพาะสินค้าที่เน้นไปทางด้านสวมใส่



2 อุปกรณ์หลากหลายขนาด เนื่องจากความต้องการใช้งานหรือความชอบที่แตกต่างกันจึงทำให้ผู้ผลิตต้องผลิตสินค้าขึ้นมาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีหลายกลุ่มด้วยกัน

3 โอเอสทางเลือกที่ 3 ผมมองว่าผู้ที่ใช้ระบบปฎิบัติการแบบเดิม ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงบ้างจึงทำให้ระบบแบบใหม่ๆจะเข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้นจากีที่แล้ว


4 S6 ชี้อนาคตซัมซุง เนื่องจากยอดขายของ samsung ได้ลดลงอย่างมากในปีที่่ผ่านมา ด้วยมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นมามากมายจึงทำให้ samsung ตกที่นั้งลำบากอบู๋ในตอนนี้


5 เครื่องจะคุยกัน (Machine to Machine) ปัจจุบันด้มีการคิดค้นระบบสื่อสารแบบนี้ขึ้นมาแล้วแต่ยังไม่ใด้ออกวางจำหน่ายเพราะติดกับกฎหมาย และ ความรับิดชอบจึงยังไม่ค่อยเห็นเทคโนโลยีแบบนี้มากนักในีที่่ผ่านมา

6 ระบบไอทีเปิดกว้าง ปัจจุบันการสื่้อสารส่วนใหญ่หรือแทบจะทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นระบบออนไลน์ จึงไม่แปลกหากในปี2015 จะได้เ็นลูกเล่นใหม่ๆขึ้นมาดึงดูดใจู้ใช้
7 ปีทองไอทีจีน : ปี 2015 จะเป็นอีกปีที่ตลาดสินค้าไอทีจากประเทศจีนเติบโตก้าวกระโดด จุดนี้มีความเป็นไปได้สูงที่ตลาดไอทีจากประเทศญี่ปุ่นจะตกที่นั่งลำบาก

8 จับตา iPhone 6C : แม้ไอโฟน 5C ในรูปตัวเครื่องสีสดใสจะไม่ได้ทำเงินร้อนแรง และแอปเปิลก็หันมาเปิดตัวไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัสด้วยหน้าจอใหญ่กว่าเดิม แต่มีความเป็นไปได้สูงมากที่แอปเปิลจะเปิดตัวไอโฟน 6C ราคาประหยัดกว่าออกมาจำหน่ายในปี 2015 เนื่องจากตลาดผู้นิยมสมาร์ทโฟนหน้าจอ 4 นิ้วยังมีอยู่และจับต้องได้

9 แว่น VR จีนมาแรง : แว่น VR หรือเวอร์ชวลเรียลิตี้ (virtual reality) เป็นหน้าจอขนาดจิ๋วในรูปแว่นตาซึ่งผู้สวมใส่จะได้เห็นภาพกราฟฟิกของระบบไอทีซ้อนทับภาพวัตถุหรือวิวทิวทัศน์จริง ปี 2015 คือปีที่น่าจับตาว่าแว่น VR จากผู้ผลิตในจีนจะสามารถแจ้งเกิดได้บนเวทีโลก หลังจากที่ปล่อยให้ผู้ผลิตจากประเทศอื่นลองผิดลองถูกไปก่อน



10 แอปไทยจะโตระดับภูมิภาค : ปี 2015 คือปีที่แอปพลิเคชันไทยมีแนวโน้มจะเติบโตเพื่อบุกตลาดผู้ใช้ในกลุ่มประเทศอาเซียนหรือเอเชียมากขึ้น ตัวอย่างแอปพลิเคชันดาวรุ่งไทยที่น่าจับตาคือ 'เคลม ดิ (Claim Di)' ที่ได้รับเงินลงทุนจากนักลงทุนรายใหญ่บนเป้าหมายเติบโตระดับโลก อย่างไรก็ตาม แนวโน้มไอทีนี้ควรได้รับแรงหนุนจากรัฐบาลไทยในการออกกฎหมายคุ้มครองนักลงทุนต่างชาติให้ได้มาตรฐานสากล ก่อนที่บริษัทดาวรุ่งไทยจะถูกซื้อไปเพื่อจดทะเบียนในประเทศอื่น ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยไร้ตัวตนในวงการไอทีโลกต่อไป